ดราม่ามิสยูนิเวิร์ส 2025 เดือด! ณวัฒน์โดนลดบทบาท

ณวัฒน์ miss univer

เกาะติดสถานการณ์ล่าสุด ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โลกของการประกวดนางงามระดับนานาชาติได้ถูกโยงเข้ากับดราม่า “หนักหน่วง” เมื่อ Miss Universe 2025 ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพ ได้เกิดเหตุการณ์หลายประการที่กำลังถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะบทบาทของ ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ในฐานะเจ้าภาพและผู้จัดใหญ่ของเวทีนี้

จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์

  • มีรายงานว่า ในงานเก็บตัวและการแถลงข่าวก่อนวันมงกุฎ มีตัวแทนนางงามหลายประเทศ ออกเดินออก (walk‐out) จากห้องประชุม หลังจากมีการพูดคุยระหว่าง ณวัฒน์ กับตัวแทนนางงามจากประเทศเม็กซิโก โดยมีการกล่าวถึงปมว่า “ไม่ให้ความร่วมมือ” ในกิจกรรมโปรโมตประเทศเจ้าภาพ ซึ่งผู้เข้าร่วมบางคนรู้สึกว่าไม่เป็นธรรม
  • ต่อมา ราอูล โรชา คานตู (Raúl Rocha Cantú) ประธานองค์กรมิสยูนิเวิร์ส (MUO) ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการว่า พบการ “ใช้บทบาทโดยไม่เหมาะสม” ของ ณวัฒน์ และประกาศจำกัดบทบาทของเขาในการจัด Miss Universe 2025 พร้อมส่ง CEO มาไทยเพื่อดูแลงานโดยตรง 

สะพัดข่าวที่หนักขึ้น

  • ณวัฒน์ ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อ เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 ณ MGI Hall Bravo BKK ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า “ตอนนี้สถานการณ์บอบบางมาก” และยอมรับว่า “ถูกหลอกให้ขอโทษ” ซึ่งเขาระบุว่าเขาเป็นมนุษย์ธรรมดา มีความรู้สึกเจ็บปวด ท้อ และรู้สึกเหมือนถูก “แทงข้างหลัง”
  • ด้าน MUO ยืนยันว่า จะไม่มีการยอมให้กระทำการที่ไม่เคารพผู้หญิงหรือนางงามในเวที และได้เข้าแทรกแซงสถานการณ์โดยการลดบทบาทของ ณวัฒน์ อย่างเป็นทางการ เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของเวทีและผู้เข้าประกวดจากกว่า 120 ประเทศ 

ประเด็นหลักที่น่าสนใจ

1. บทบาทของเจ้าภาพ – ผู้จัด

บทบาทของเจ้าภาพเวที Miss Universe 2025 คือการสนับสนุนให้การประกวดดำเนินไปอย่างมืออาชีพ มีมาตรฐานสากล แต่สถานการณ์ตัวแทนนางงาม “เดินออก” ก่อนกิจกรรม เป็นการส่งสัญญาณชัดว่ามีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการจัดงานหรือบรรยากาศภายใน

2. ความเชื่อมโยงระหว่างการโปรโมตและการให้ความร่วมมือ

เหตุการณ์บอกว่ามี “การไม่ให้ความร่วมมือ” จากบางประเทศ เนื่องจากเจ้าภาพเรียกร้องให้ช่วยโปรโมตกิจกรรม ทำให้เกิดความตึงเครียดระหว่างบริษัทที่จัดงาน และผู้เข้าประกวด ([www.thairath.co.th][6])

3. การจัดการวิกฤติและภาพลักษณ์ของเวที

เมื่อเกิดดราม่า MUO เข้ามาจัดการโดยตรง แสดงให้เห็นว่า “เวทีระดับโลก” ให้ความสำคัญกับการจัดงานที่โปร่งใส เคารพผู้เข้าประกวด และรักษามาตรฐาน ไม่ใช่เพียงการเป็นเจ้าภาพในเชิงโครงสร้าง แต่ยังเป็นเรื่องศักดิ์ศรีของเวทีและผู้หญิง

ผลกระทบที่ตามมา

ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพ Miss Universe และของหน่วยงานผู้จัดในประเทศ อาจถูกมองว่าขาดประสิทธิภาพหากเหตุการณ์เหล่านี้ไม่คลี่คลาย นางงามหลายประเทศซึ่งถอนตัวหรือมีความไม่พอใจ อาจส่งผลต่อความไว้วางใจในเวทีในอนาคต

ส่วน ณวัฒน์เอง ก็ต้องเผชิญกับแรงกดดันทั้งภายในและภายนอก จากการถูกลดบทบาท และคำวิพากษ์วิจารณ์เรื่องวิธีการบริหารจัดการ

มองจากสองด้าน

ด้านหนึ่ง:

สร้างโอกาสให้ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพเวทีระดับโลกอีกครั้ง เป็นโอกาสทางเศรษฐกิจและฟรีสปอตประเทศ อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดข้อผิดพลาดหรือความขัดแย้ง สิ่งที่ถูกมองมากที่สุดคือความโปร่งใสและความเป็นธรรม

อีกด้านหนึ่ง:

แรงกดดันและการทำงานเบื้องหลังของผู้จัดงานย่อมมีมาก เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่เป็นไปตามแผน การถูกวิจารณ์จึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยาก

สิ่งที่ควรติดตามในขั้นต่อไป

  •  การประชุมและคำชี้แจงจาก MUO ต่อจากนี้ว่าจะมีการแก้ไขหรือจัดการกับข้อร้องเรียนอย่างไร
  •  ผลกระทบต่อพิธีมอบสายสะพายหรือวันจริงของ Miss Universe 2025 ที่จะจัดขึ้นในประเทศไทย
  •  ท่าทีของผู้เข้าประกวดและตัวแทนประเทศ ซึ่งอาจมีการแสดงออกเพิ่มเติมหรือตัดสินใจถอนตัว