เวลาเห็นราคาหุ้นหรือคริปโตพุ่งแรง ๆ เรามักรู้สึกเหมือนต้องรีบคว้าโอกาสนั้นไว้ กลัวพลาด กลัวคนอื่นได้กำไรแต่เรายังอยู่กับที่ ความรู้สึกนี้มีชื่อเรียกว่า FOMO หรือ Fear Of Missing Out ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกับดักทางอารมณ์ที่ทำลายนักลงทุนมานักต่อนัก บทความนี้สมศรีจะพาไปทำความเข้าใจว่า FOMO ทำงานอย่างไร ทำไมถึงเป็นหายนะทางการลงทุน และเราจะมีวิธีคุมสติเมื่อเห็นตลาดวิ่งแรงได้อย่างไร
เข้าใจ FOMO ในโลกการลงทุน
FOMO ในการลงทุนเกิดขึ้นเมื่อเรารู้สึกกลัวตกขบวนโอกาส เช่น เห็นราคาหุ้นขึ้นอย่างต่อเนื่อง เห็นคนแชร์กำไรบนโซเชียลเต็มไปหมด หรือมีข่าวดังว่าธุรกิจใหม่กำลังโตเร็วมาก ภาวะนี้ทำให้สมองเราปล่อยสารโดพามีน รู้สึกตื่นเต้นและอยากกระโดดเข้าไปทันทีโดยไม่ได้คิดวิเคราะห์อย่างรอบคอบ ผลคือซื้อในราคาสูงและอาจติดดอยตั้งแต่วันแรก
นักจิตวิทยาด้านการลงทุนบอกว่า FOMO คือผลของ “social proof” หรืออิทธิพลจากคนหมู่มาก เมื่อเห็นคนอื่นทำสิ่งใดแล้วได้ผลดี เราก็อยากทำตามเพราะกลัวถูกทิ้งไว้ข้างหลัง แต่ในตลาดการเงินสิ่งนี้กลับอันตราย เพราะโอกาสที่ดูเหมือนง่ายมักจะผ่านไปแล้วก่อนที่เราจะรู้ตัว
ทำไม FOMO ถึงเป็นหายนะทางการลงทุน
เพราะหลักการลงทุนที่ดีคือ “Buy Low Sell High” หรือซื้อเมื่อราคาต่ำแล้วขายเมื่อราคาสูง แต่ FOMO ทำให้เราทำตรงกันข้าม คือซื้อเมื่อราคากำลังขึ้นแรงเพราะกลัวพลาด แล้วพอราคากลับตัวลงเราก็รีบขายเพราะกลัวขาดทุน ผลลัพธ์คือเราซื้อแพงและขายถูก
อีกปัญหาคือ FOMO ทำให้เราลืมแผนการลงทุนที่วางไว้ เราอาจมีพอร์ตที่สมดุลอยู่แล้ว แต่พอเห็นคนอื่นได้กำไรจากสินทรัพย์ใหม่ ๆ เราก็รีบโยกเงินไปโดยไม่คิด ผลที่ตามมาคือความเสี่ยงเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว และเสียโอกาสในสิ่งที่เราลงทุนอยู่เดิม
FOMO ยังทำให้สภาพจิตใจของนักลงทุนแย่ลงด้วย เพราะเมื่อผิดพลาดแล้วเราจะรู้สึกโทษตัวเอง สูญเสียความมั่นใจ และอาจเลิกลงทุนไปเลย ซึ่งไม่ใช่ผลดีต่อการสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว
สัญญาณเตือนว่าคุณกำลังติด FOMO
การสังเกตตัวเองเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าคุณเริ่มรู้สึกตื่นเต้นเกินไปเมื่อเห็นราคาวิ่งแรง เปิดแอปเช็กราคาบ่อยผิดปกติ หรือซื้อสินทรัพย์ใหม่ ๆ โดยไม่ศึกษาเพียงเพราะกลัวพลาด นั่นแหละคือสัญญาณเตือนว่าคุณกำลังติด FOMO แล้ว
ลองถามตัวเองก่อนกดปุ่มซื้อว่า “เรารู้จริงหรือยัง” ถ้ายังไม่ได้วิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานหรือไม่มีเหตุผลเชิงตรรกะในการซื้อ ก็ให้ถอยออกมาก่อน
วิธีคุมสติเมื่อตลาดวิ่งแรง
สิ่งแรกคือกลับไปที่แผนการลงทุนของคุณ ถ้าคุณมีเป้าหมายและแผนที่ชัดเจน เช่น จะลงทุนในหุ้นกลุ่มไหน สัดส่วนเท่าไร และถือยาวกี่ปี คุณจะไม่หวั่นไหวกับกระแสระยะสั้นได้ง่าย ๆ
อีกวิธีหนึ่งคือให้เวลากับตัวเอง 24 ชั่วโมงก่อนตัดสินใจลงทุนใหม่ ๆ ความรู้สึกอยากซื้อทันทีมักเกิดขึ้นเป็นช่วงสั้น ๆ ถ้าผ่านไปสักวันแล้วคุณยังคิดเหมือนเดิม ค่อยพิจารณาอีกครั้ง การหยุดคิดสักนิดอาจช่วยคุณประหยัดเงินได้มหาศาล
นอกจากนี้ควรกระจายความเสี่ยงในพอร์ต อย่าทุ่มเงินทั้งหมดไปในสินทรัพย์ที่กำลังฮอต เพราะต่อให้สินทรัพย์นั้นดีจริงก็ยังมีความเสี่ยงอยู่เสมอ การกระจายการลงทุนช่วยให้คุณไม่เจ็บหนักหากราคากลับตัว
สุดท้ายคือปรับมุมมองว่าตลาดมีโอกาสใหม่ ๆ เสมอ คุณไม่จำเป็นต้องเข้าทุกครั้งที่มีคนบอกว่า “ครั้งนี้ห้ามพลาด” เพราะในโลกการลงทุนไม่มีโอกาสสุดท้ายจริง ๆ
เสริมภูมิคุ้มกันทางจิตใจและความรู้
ความรู้คือเกราะป้องกันที่ดีที่สุด ยิ่งคุณเข้าใจสินทรัพย์ที่ลงทุนมากเท่าไร คุณก็จะยิ่งมั่นใจและไม่ตกเป็นเหยื่อ FOMO ได้ง่าย ๆ ศึกษาปัจจัยพื้นฐานของบริษัท อ่านงบการเงิน ทำความเข้าใจธุรกิจ หรือถ้าเป็นคริปโตก็ควรอ่านไวท์เปเปอร์และดูทีมงานเบื้องหลัง
ฝึกสมาธิหรือจดบันทึกความรู้สึกตัวเองเมื่อเห็นราคาวิ่งแรงก็ช่วยได้ เพราะคุณจะเริ่มเห็นรูปแบบอารมณ์ของตัวเอง เช่น ทุกครั้งที่เห็นราคาขึ้นแรงคุณจะใจเต้นเร็ว มือสั่น พอรู้เท่าทันตัวเองก็จะคุมสติได้ง่ายขึ้น
สร้างระบบลงทุนแทนการใช้ความรู้สึก
การสร้างระบบหรือตั้งกฎการลงทุนจะช่วยลดผลกระทบจากอารมณ์ เช่น การลงทุนแบบ DCA (Dollar Cost Averaging) คือการทยอยซื้อสินทรัพย์ในจำนวนเท่า ๆ กันทุกเดือน ไม่ว่าราคาจะขึ้นหรือลง วิธีนี้ช่วยสร้างวินัยและลดโอกาสตัดสินใจผิดพลาดเพราะความกลัวหรือความโลภ
คุณยังสามารถใช้การตั้ง Stop Loss หรือ Take Profit อัตโนมัติ เพื่อล็อกกำไรหรือจำกัดขาดทุน วิธีนี้ช่วยให้คุณตัดสินใจล่วงหน้าแทนที่จะตัดสินใจตอนอารมณ์กำลังรุนแรง
FOMO ไม่ใช่แค่คำฮิตในโซเชียล แต่มันคือกับดักทางจิตวิทยาที่ทำให้คนจำนวนมากเสียเงินในตลาดการลงทุน การจะเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่การหาสินทรัพย์ที่ใช่ แต่ขึ้นอยู่กับการควบคุมอารมณ์และมีวินัยในกลยุทธ์ของตัวเอง
จงจำไว้ว่า ตลาดมีโอกาสเสมอ คุณไม่จำเป็นต้องไล่ตามทุกขาขึ้น และไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดที่พลาดกำไรบางช่วง เพราะสิ่งสำคัญคือความมั่นคงและความยั่งยืนในระยะยาว มากกว่าการวิ่งตามกระแสระยะสั้น